แย้มกลีบ "ดอกไม้นอก"

หากใครที่ยังคงติดใจในความสวยงามของไม้เมืองหนาว ในฉบับนี้เราก็ยังมีมาฝากกันอีกค่ะ โดยเป็นชนิดที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการปลูกมากนัก แถมเมื่อออกดอกแล้วเรายังตัดมาประดับบ้าน ช่วยเพิ่มความสวยงามได้อีกต่างหาก

ลิลลี่
ไม้ดอกประเภทหัวที่มีชื่อทางวิชาการว่า Lilium hybrids มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีนและทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ลิลลี่เป็นได้ทั้งไม้ตัดดอกและไม้กระถาง เป็นดอกไม้ที่มีหลากหลายสีสัน ทั้งสีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง แต่ชนิดที่ได้นิยมปลูกกัน คือ

  • Easter Lily หรือ ลิลลี่ปากแตร เป็นชนิดที่มีดอกสีขาวและมีกลิ่นหอม
  • Asiatic hybrids กลุ่มลูกผสมเอเชียติกที่มีดอกหลากสีแต่ไม่มีกลิ่นหอม
  • Oriental hybrids กลุ่มลูกผสมออเรียลเทิล เป็นชนิดที่มีกลิ่นหอมแต่ราคาแพง
สำหรับหัวที่ฝังอยู่ใต้ดิน เมื่อถึงฤดูร้อนก็จะพักตัวเช่นเดียวกับไม้หัวประเภทอื่นๆ แต่เมื่อถึงฤดูหนาวหรือเมื่อหัวเก็บอาหารได้สมบูรณ์ดีแล้ว ก็จะแทงช่อดอกขึ้นมาอีกครั้ง

การดูแล ควรปลูกในดินที่มีการระบายน้ำและอากาศดี มีอินทรีย์วัตถุสูง อุณหภูมิที่เหมาะสมของการเจริญเติบโตในช่วงแรกอยู่ที่ประมาณ 12 - 15 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงระหว่างการเจริญเติบโตจะต้องรักษาอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 22 - 25 องศาเซลเซียสในช่วงกลางวัน และ 14 - 16 องศาเซลเซียสในช่วงกลางคืน และควรรดน้ำวันละครั้งในช่วงเช้า และพยายามให้ดินมีความชื้นอยู่เสมอ


บีโกเนีย
บีโกเนียเป็นไม้อวบน้ำอายุยืน อยู่ในวงศ์ BEGONIACEAE (BEGONIA FAMILY) มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียและอเมริกา บีโกเนียเป็นต้นไม้ที่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับปลูกเป็นพืชคลุมดิน ไม้กระถางหรือไม้แขวนก็ได้ ปัจจุบันบีโกเนียมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ บางชนิดสามารถทนร้อนได้ บางชนิดต้องการอากาศเย็น อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีทั้งชนิดดอกสวยงามและใบสวยงาม แต่ที่นิยมปลูกกันมาก คือ พันธุ์ที่ให้ดอกสวยงาม เช่น
  • สายพันธุ์ Tuberous Begonias หรือบีโกเนียพันธุ์หัว ลักษณะดอกมีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน มีหลากสี ทั้งสีแดง ส้ม เหลือง ชมพู ฯลฯ เป็นพันธุ์ที่ต้องการอากาศหนาวและจะพักตัวในหน้าร้อน
  • สายพันธุ์ Fibrous Begonias หรือ Waxed Begonia บีโกเนียชนิดนี้ลำต้นเอนนอน ใบเป็นมัน ดอกสวยสีสด นิยมปลูกเป็นไม้พืชคลุมดินเพื่อเพิ่มความสวยงาม สามารถทนแดดได้ดี
  • สายพันธุ์ Angel Wing หรือที่บ้านเราเรียก ทับทิมสยาม ลักษณะรูปใบคล้ายปีกนางฟ้า ช่อดอกใหญ่และให้ดอกดก มีสีหลากหลาย เช่น สีส้ม แดง ชมพู ขาว และใบมักมีจุดขาวเด่น
การดูแล ให้น้ำเพียงวันละครั้ง ดินที่ใช้ปลูกควรเป็นดินที่โปร่งร่วนซุย มีอินทรีย์วัตถุมาก กักเก็บความชื้นได้ดี ควรระวังเรื่องแสงแดด เพราะแม้จะเป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดรำไร แต่หากได้แสงน้อยเกินไปก็อาจทำให้ก้านใบยืดยาว สีใบและสีดอกซีดจางลงและไม่ออกดอก แต่หากได้แดดที่จัดจนเกินไปก็จะทำให้ขอบใบแห้งไหม้ได้


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก สวนทิวลิปนนท์, www.neofarmthailand.com, http://us.geocities.com/flowerthai/flower/content, www.doae.go.th

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น